ทีมชาติเวลส์ ไม่ใช่ทีมชาติเบล

ทีมชาติเวลส์ ไม่ใช่ทีมชาติเบล

          การทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มักเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของผู้ร่วมกระทำ อย่างในนิยายเอกของจีนเรื่อง 3 ก๊ก ในตอนที่มหาอุปราชโจโฉ นำทัพชาวเหนือกกว่า 800,000 คนลงมากวาดล้างผู้ที่ตนคิดว่าเป็นกบฎในแดนใต้ คือเล่าปี่และซุนกวน ก่อเกิดศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างศึกผาแดงหรือศึกเซ็กเพ็ก ก่อนที่จะถูกสอนมวยอย่างราบคาบด้วยความสามัคคีของชาวใต้ที่มีกำลังคนเพียง 20,000 คน จนผลสุดท้ายได้นำไปสู่ยุคสมัยแห่ง 3 แผ่นดินเต็มรูปแบบ ดูบอลออนไลน์
          เฉกเช่นเดียวกับการที่ แกเร็ธ เบล นักเตะค่าตัว 85 ล้านปอนด์ คอยวิ่งขึ้นวิ่งลงช่วยเหลือเพื่อนๆในการเล่นเกมส์รับตลอดตั้งแต่การแข่งขันยูโรรอบสุดท้ายนัดแรก สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่สำหรับนักฟุตบอลอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้,ลิโอเนล เมสซี่ หรือแม้แต่ เอแด อาซาร์ 
          

        
          เมื่อบอลอยู่กับเท้าดาวเตะเชลซี ก็เป็นเรื่องยากที่จังหวะสุดท้ายจะไปจบที่เพื่อนร่วมทีม มากกว่าการสับไกยิงหลุดกรอบไปจากเท้าของตัวเอง "ทำไมเอ็งถึงไม่ส่งบอล" หลายครั้งที่กองหน้าร่างยักษ์อย่างลูกากู ออกอาการหัวเสียเมื่ออาซาร์เลือกที่จะเล่นเองมากกว่าส่งให้เพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งที่ดีกว่า และนี่คงเป็นปัจจัยที่ทำให้ เบลเยี่ยมไม่อาจจะไปได้ไกลกว่าตรงนี้ มูลค่านักเตะในทีมราวๆ 300 ล้านปอนด์ ไม่อาจจะการันตีอะไรได้เลยถ้าหากใจไม่เป็นหนึ่งเดียว แต่นั่นไม่ใช่เวลส์ ดูบอลออนไลน์
         
           ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คริส โคลแมน คุมทีมพ้ายแพ้เซอร์เบียเละ 6-1 หลังเพิ่งเข้ามารับงานต่อจาก เพื่อนรักที่รู้จักกันตั้งแต่อายุ 14 อย่าง แกรี่ สปีด ที่เสียชีวิตไป จากนั่น คริส ก็พาทีมผ่านมรสุมต่างๆ เปลี่ยนแปลงทีม จากทีมที่เน้นเกมส์รุก มาเล่นเกมส์รับและสวนกลับอย่างเต็มตัว โดย 
แกเร็ธ เบล ซุปเปอร์สตาร์จาก เรอัล มาดริด แทบจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆต่างจากนักเตะคนอื่นในแคมป์ทีมชาติเลย โคลแมน ได้หลอมหัวใจ หล่อความสามัคคีของนักเตะให้เป็นหนึ่งเดียวกัน 
           พวกเขาเล่นได้อย่างยอมเยี่ยม มีระบบและระเบียบวินัยที่แข็งขัน "พวกอังกฤษ ดูไว้ซะ พวกอังกฤษดูไว้ซะ"เสียงตะโกนลั่นจากแฟนเวลส์ฝากถึงทีมที่คิดว่าพวกเขาเป็นเพียงพวกบ้านนอกสำหรับตนเอง นี่คือประวัติศาสตร์ของทีมที่มีประชากรแค่ 3 ล้านเศษๆ พวดเขาได้พิสูจน์แล้วว่านี่คือทีมชาติเวลส์ ไม่ใช่ทีมชาติเบล ดูบอลออนไลน์

ภาคผนวก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น