กู๊ดบาย...น้ากิ๊ก

          การที่สาวกหงส์แดงอย่างผม จะต้องร้อยเรียงสำเนียงถึงความเป็นไปของ นักเตะทีมอริตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจดูเป็นเรื่องไม่เข้าทีนัก แต่เนื่องด้วยตัวผมเคยได้สัมผัสกับอารมณ์และความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกันนี้ของแฟนผีแดงทั้งหลายมาแล้ว การจากลาไปของนักเตะที่เรียกได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ของทีมหงส์แดงอย่าง  กัปตันเจิด หรือ สตีเวน เจอร์ราร์ด สร้างความเศร้าหมองให้กับแฟนบอลพันธ์หงส์ไม่น้อย เมื่อต้องนึกภาพฤดูกาลที่จะมาถึงปราศจากภาพกัปตันหมายเลข 8 ที่คุ้นเคยในสนามอีกแล้ว เช่นเดียวกับทีมแห่งโรงละครแห่งความฝันที่จะไม่ได้เห็นภาพ น้ากิ๊ก ที่หลายๆคนเรียกนั่งจับเจ่าอยู่ข้างสนามอีกแล้ว ดูบอลออนไลน์

        

        "ผมรู้สึกเซ็งนิดหน่อยที่ลูกชายของผมไม่เชื่อว่าผมเคยวิ่งเร็วกว่าเมสซี่ เขาตอบผมอย่างน่าตาเฉยว่า ผมไม่เชื่อหรอกผมยังวิ่งเร็วกว่าพ่อเลย" อดีตดาวเตะฉายาปีพ่อมดเคยเปรยไว้อย่างอารมณ์ดี แต่เชื่อได้เลยว่าถ้า ไรอัน กิ๊กส์เกิดมาในยุคสมัยที่เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์การกีฬาเจริญกว่าหน้าอย่างทุกวันนี้ พี่แกคงมีโอกาสคว้ารางวันส่วนตัวมากมายไปนอนกอดอย่างสบายๆ ซึ่งแฟนผีรุ่นเก๋าหลายคนเคยคุยฝุ่นตลบกับผมว่า ถ้ากิ๊กส์มีเทนเนอร์ฟิสเนสและวิทยาการสร้างกล้ามเนื้อแบบเดียวกับแกเร็ธ เบล หรือ คริสเตียโน โรนัลโด อดีตปีกทีมชาติเวลส์คงเทียบชั้นนักเตะสองคนข้างต้นได้อย่างแน่นอน ดูบอลออนไลน์

          

          แต่โลกของฟุตบอลไม่มีคำว่า ถ้า ถึงตอนนี้เมื่อวันเวลาแห่งความสำเร็จ ความภูมิใจ ความเจ็บช้ำ ความหมองหม่นและอีกมากมายความรู้สึกตลอด 29 ปี ผ่านไปจากวันที่เด็กชายสัญชาติเวลส์วัย 14 ปี วิ่งกลับมาบ้านของตนโดยเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอ ยอดกุนซือแห่งยุคอย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่งจิบน้ำชากับคุณแม่ของเขา พร้อมกับมอบของขวัญวันเกิดเป็นสัญญานักเตะอาชีพกับทีมปีศาจแดง ก็ต้องโบกมือลาสถานที่ ที่เรียกว่าบ้านหลังที่ 2 ของเขาไป เพราะเมื่อวันนี้มาถึง เขาเองก็ต้องพร้อมที่จะเติบโตต่อไป ถึงแม้เส้นทางของเขาอาจจะไม่ได้กลับมาบรรจบกับบ้านหลังนี้ที่เขารักอีกแล้วก็ตาม โดยแฟนหงส์คนนี้ก็แค่อย่างจะขอกล่าวว่า กู๊ดบายนะน้าาาาา ดูบอลออนไลน์

                                                                              ภาคผนวก